วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

ผู้กำกับ

                                      ผู้กำกับภาพยนตร์ (Movie Director/Film Director)

นิยามอาชีพ
         
         ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดจินตนาการของผู้เขียน บทภาพยนตร์ และผู้กำกับภาพยนตร์ ให้เกิดเป็นภาพเคลื่อนไหว ที่สามารถเล่าเรื่องราวให้ผู้ชมได้รับรู้และเกิดอารมณ์ ความรู้สึกตรงตามจินตนาการของผู้เขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์

ลักษณะของงานที่ทำ
        
          ผู้กำกับภาพยนตร์จะต้องศึกษาทำความเข้าใจกับบทบาทของแต่ละตัวแสดงอย่างละเอียด สามารถกำหนดและเลือกองค์ประกอบทุกอย่างในการทำงานกับทีมเบื้องหลังได้ มีหน้าที่ควบคุมงานเกือบทุกอย่างในกองถ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาพและเสียง การดำเนินเรื่อง มุมกลอง บทสนทนา สเปเซียลเอฟเฟกต์ กำกับนักแสดงให้เล่นได้ตามบทบาท อย่างเช่น ฝ่ายกำกับภาพ ซาวน์เอ็นจิเนียร์ ฝ่ายจัดแสง ฝ่ายจัดหาโลเคชั่น ฝ่ายคอสตูม ฝ่ายสเปเซียลเอฟเฟกต์  เป็นต้น และวิธีการกำกับของผู้กำกับแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันเลย เนื่องจากศิลปะการกำกับหนังไม่มีทฤษฎีที่ตายตัว ซึ่งหน้าที่ของผู้กำกับ มีดังนี้
1.                    ทำความเข้าใจ ตีความบทละคร
2.                    เลือกผู้ออกแบบ และผู้ร่วมงานฝ่ายแต่ง ๆ
3.                    ให้คำแนะนำและรับฟังความเห็นของการคัดเลือกนักแสดงทุกฝ่าย เพื่อตกลงกันถึงรูปแบบการทำงาน
4.                    เตรียมการในทุกขั้นตอน เซ็กความถูกต้องเรียบร้อยทุกกระบวนการ
5.                    ฝึกซ้อมการแสดงก่อนถ่ายทำจริงในระหว่างการถ่ายทำ และรับผิดชอบส่วนรวม

สภาพการจ้างงาน
          
          รายได้มาจากเงินทุนของผู้สร้างภาพยนตร์ คิดกันเป็นเรื่อง ๆ  เรื่องหนึ่งใช้งบไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทไปจนถึงหลักล้านขึ้นไป

สภาพการทำงาน
         
          มีทั้งถ่ายทำในโรงถ่าย สตูดิโอนอกสถานที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ซึ่งจะต้องให้เข้ากันกับการดำเนินเรื่อง ถึงจะมีปัญหา อุปสรรคในการถ่ายทำ เช่น สภาพอากาศ อาจจะต้องยกกองรอ หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

โอกาสในการมีงานทำ
       
ผู้ที่เลือกเข้าศึกษาสาขาภาพยนตร์สามรถทำงานในสายงานภาพยนตร์ได้ตามทักษะ ความรู้ ความชำนาญ แลพประสบการณ์ ดังนี้
-                    เป็นนักสร้างสรรค์งานโฆษณา ผู้เขียนบทงานโฆษณา
-                    เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ งานโฆษนา สารคดีต่าง  ๆ
-                    เป็นผู้กำกับศิลป์ ถ่ายภาพ ตัดต่อ ใช้เทคนิคพิเศษต่าง  ๆ
-                    เป็นผู้คุมแสง สี เสียง
-                    เป็นผู้อำนวยการผลิตภาพยนตร์
-                    เป็นนักเขียน นักวิจารณ์ภาพยนตร์ เป็นต้น

คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ

1.               สำเร็จการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง
2.               มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์
3.               สามารถเข้าใจ ตีความภาพรวมทุกอย่าง อาทิ องค์ประกอบทุกอย่างในบทภาพยนตร์
4.               มีความสามารถจูงใจให้ทีมงานทุกฝ่ายมีความผูกพัน ทำงานเป็นหนึ่งใจเดียวกัน สร้างบรรยากาศที่ดีและให้มีส่วน
5.               มีความพร้อม มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหา แก้ไขสถารณ์ต่าง  ๆ ด้วยความฉับไว ตัดสินใจอย่างละเอียดรอบคอบ
6.               มีความกระตือรือร้น มีทักษะในการปฎิบัติงาน การพูด บุคลิก ให้เป็นที่น่าเชื่อถือแก่ทีมงาน
7.               มีความรู้ในการใช้อุปกรณ์เกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์

สถานฝึกอบรมอาชีพ / สถาบันการศึกษา
         
           คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ

โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
           
          สามรถเลือกทำงานได้หลากหลายในวิชาชีพด้านภาพยนตร์ เช่น ผู้อำนวยการผลิต ผู้กำกับ นักขัยนบท ช่างภาพ ผู้กำกับด้านศิลป์ นักสร้างสรรค์งานโฆษณา ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้กำกับด้านศิลป์งานโฆษณา ผู้ออกแบบฉาก

อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
           
ผู้จัดงานอีเวนต์ (Event) นักโฆษณา ธุรกิจผู้ผลิตสินค้าและบริการต่าง  ๆ

แหล่งข้อมูลอื่น ๆ

         
เว็บไซน์คณะนิเทศศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง

                                                                                           Michael Bay


ธุรกิจ

ธุรกิจ  มันหมายความว่าไง
ธุรกิจ  นั้นมีความหมายครอบคลุมเรื่องเกี่ยวกับการค้าอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ

1.  ตัวองค์กรการค้า, อุตสาหกรรม หรือบริษัท หรือที่เรียกกันว่า "องค์กรธุรกิจ"
2.  กิจกรรมที่เกี่ยวกับการค้า, อาชีพ และอุตสาหกรรม เช่นในคำพูด "ธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามสภาพตลาด"
3.  ส่วนของกิจกรรมทางเศรษฐศาสตร์ เช่น "ธุรกิจเพลง" หรือ "ธุรกิจคอมพิวเตอร์" (ดู อุตสาหกรรม)

บทความนี้จะเน้นไปที่ความหมายอันแรก แต่ก็จะมีลิงก์ไปยังหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจและการบริหารจัดการตามความหมายที่สองด้วยเช่นกัน
องค์กรธุรกิจต่างก็ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อประกอบกิจกรรมทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะมุ่งเน้นในการแสวงหาผลกำไร แม้จะมีข้อยกเว้นบ้างในบางกรณี (เช่นสหกรณ์องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร, หน่วยงานรัฐบาล) โดยรวมแล้วก็จะกล่าวได้ว่า เจ้าของและผู้ประกอบการธุรกิจมีจุดมุ่งหมายหลักอยู่ที่รายรับ หรือการก่อให้เกิดผลตอบแทนทางการเงิน แลกเปลี่ยนกับการลงทุนด้านเวลาความอุตสาหะ และเงินทุน

ก็อย่าง ที่เร กล่าว ไป การที่ใครคิด ที่จะก้าวเข้า มาทำ ธุรกิจ นั่นก็หมายความว่า คุณต้องการแสวงหาผลกำไร กำไร ไม่ว่าจะเป็น ที่มาจาก การขาย เล็กๆ น้อยๆ นั่นก็เรียกว่าธุรกิจ เหมือนกัน แต่การที่ใครจะเข้ามาขาย หรือ ทำธุรกิจ นั่นมันมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เพราะ บางคน เข้ามาเพื่อ ต้องการ ร่ำรวย บางคนเข้ามาเพื่อ ศึกษา วิธีการทำ แต่ ในที่นี้ ผมอยากจะบอกว่า ธุรกิจ ทำไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เช่นเดี๋ยวกัน เพราะฉนั้น ผม นายจเร มั่นกสิวิทย์ หรือเรียกผมสั้นๆ ว่าเร ผมจะ ทำหน้าที่ ช่าวยเหลือท่าน ช่วยให้ท่านได้เข้าใจว่า ธุรกิจ ควรทำอย่างไร ธุรกิจ ที่แตกต่าง มันดีอย่างไร การทำสื่อโฆษณา ที่แตกแต่าง มันดีเช่นไร การตลาดแนวใหม่ ทำอย่างไร และ อื่นอีกมากมาย ที่ผม เร จะสอนท่านให้ได้เข้าใจ ในการทำธุรกิจของท่านให้สำเร็จ เอาง่ายๆ ครับ จงโมงดลก ให้แตกต่าง เหมือนผม แล้ว คุณจะรู้ว่า เงิน หล่นอยู่ บนถนน ที่คุณเดิน ไปใน ทุกๆ ที่ ผม มั่นใจ ครับ  ก้าว เดิน ตามผมมา แล้วคุณจะรู้ว่า เมฆ สี ดำ ของผม นั่นทำอย่างไร

นำเครื่องคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้ในงานธุรกิจด้านต่าง ๆ เช่น ระบบสินค้าคงคลัง ระบบการเงิน ระบบบัญชี ระบบการบริหารงาน ระบบการจัดการงานบุคลากร การผลิต 

จุดประสงค์ของธุรกิจ
1.             เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ไปใช้ในงานธุรกิจด้านต่าง ๆ
2.             เพื่อให้สามารถวิเคราะห์การทำงานด้านธุรกิจ และวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างถูกต้อง
3.             เพื่อให้ทราบถึงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสามารถนำมาประยุกต์ใช้เผยแพร่สารสนเทศได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
4.             เพื่อศึกษา และติดตามความเจริญก้าวหน้าทางด้านธุรกิจได้
5.             เพื่อให้ทราบถึงการทำงาน และความสัมพันธ์ของการดำเนินธุรกิจร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และต้นทุนที่ต่ำลง

จุดมุ่งหมายในการประกอบธุรกิจ (Objective of business)
1.             เพื่อให้บริการแก่ผู้บริโภค และผู้อุปโภค
2.             นำผลกำไรมาสู่ผู้ลงทุน
3.             รักษาสัมพันธภาพระหว่างกิจการกับ พนักงาน ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมภายนอก
4.             เพื่อความอยู่รอด และเจริญเติบโตของธุรกิจนั้น ๆ
5.             ให้บริการแก่ท้องถิ่น และเสริมสร้างความเจริญแก่สังคม


ทรัพยากรที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ (Resources)
1.             คน รวมถึงผู้บริหาร และพนักงานทั้งหมด (Human resources)
2.             วัตถุดิบ (Material resources)
3.             ข่าวสารข้อมูล (Information resources)
4.             เงินลงทุน (Financial resources)
5.             เครื่องมือ (Tool resources)

ประเภทของการก่อตั้งองค์การ (Type of organization)
1.             การประกอบการโดยเจ้าของคนเดียว (Owner's management)
2.             ห้างหุ้นส่วน (Partnership) : 2 คนขึ้นไป หนี้สินไม่จำกัด
3.             บริษัทจำกัด (Company limited) : ผู้ถือหุ้น 7 คนขึ้นไป รับผิดชอบหนี้เฉพาะมูลค่าหุ้น
4.             รัฐวิสาหกิจ (State enterprise)
5.             บริษัทข้ามชาติ (Multinational corporations)
6.             สหกรณ์ (Co-operative)

ประเภทของธุรกิจ (Type of business)
1.             ธุรกิจการผลิต (Manufacturing)
2.             ธุรกิจเหมืองแร่ (Mining)
3.             ธุรกิจค้าส่ง (Wholesaling)
4.             ธุรกิจค้าปลีก (Retailing)
5.             ธุรกิจบริการ (Service)

ระบบย่อยของธุรกิจ (Sub-agent of business)
1.             ระบบย่อยทางการจัดการ (Management)
2.             ระบบย่อยทางการบันทึกข้อมูล (Data recording)
3.             ระบบย่อยทางการตลาด (Marketing)
4.             ระบบย่อยทางการผลิต (Production)
5.             ระบบย่อยทางการเงิน (Financial)


วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อาชีพ

       

           อาชีพ หมายถึง การทำกิจกรรม การทำงาน การประกอบการที่ไม่เป็นโทษแก่สังคม และมีรายได้ตอบแทน โดยอาศัยแรงงาน ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ แตกต่างกันไป กลุ่มอาชีพตาม ลักษณะการประกอบอาชีพ   มี 2 ลักษณะ คือ อาชีพอิสระ และอาชีพรับจ้าง 1 อาชีพอิสระ หมายถึง อาชีพทุกประเภทที่ผู้ประกอบการดำเนินการด้วยตนเอง แต่เพียงผู้เดียวหรือเป็นกลุ่ม อาชีพอิสระเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่หากมีความจำเป็นอาจมีการจ้างคนอื่นมาช่วยงานได้ เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงทุน และจำหน่ายเอง คิดและตัดสินใจด้วยตนเองทุกเรื่อง ซึ่งช่วยให้การพัฒนางานอาชีพ เป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ เช่น ขายอาหาร ขายของชำ ซ่อมรถจักรยานยนต์ ฯลฯ ในการประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการจะต้องมีความรู้ ความสามารถในเรื่อง การบริหาร การจัดการ เช่น การตลาด ทำเลที่ตั้ง เงินทุน การตรวจสอบ และประเมินผล เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องมีความอดทนต่องานหนัก ไม่ถ้อถอยต่อ ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และมองเห็นภาพการดำเนินงาน ของตนเองได้ทะลุปรุโปร่ง 2 อาชีพรับจ้าง หมายถึง อาชีพที่มีผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการ โดยตัวเองเป็นผู้รับจ้าง ทำงานให้ และได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน อาชีพรับจ้างประกอบด้วย บุคคล 2 ฝ่าย ซึ่งได้ตกลงว่าจ้างกัน บุคคลฝ่ายแรกเรียกว่า quot นายจ้าง quot หรือผู้ว่าจ้าง บุคคลฝ่ายหลังเรียกว่า quot ลูกจ้าง quot หรือผู้รับจ้าง มีค่าตอบแทนที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ ผู้รับจ้างเรียกว่า quot ค่าจ้าง quot การประกอบอาชีพรับจ้าง โดยทั่วไปมีลักษณะ เป็นการรับจ้างทำงานในสถาน ประกอบการหรือโรงงาน เป็นการรับจ้างในลักษณะการขายแรงงาน โดยได้รับค่าตอบ แทนเป็นเงินเดือน หรือค่าตอบแทนที่คิดตามชิ้นงานที่ทำได้ อัตราค่าจ้างขึ้นอยู่กับการกำหนด ของเจ้าของสถานประกอบการ หรือนายจ้าง การทำงานผู้รับจ้างจะทำอยู่ภายในโรงงาน ตามเวลาที่นายจ้างกำหนด การประกอบอาชีพรับจ้างในลักษณะนี้มีข้อดีคือ ไม่ต้องเสี่ยง กับการลงทุน เพราะลูกจ้างจะใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่นายจ้างจัดไว้ให้ทำงานตามที่นายจ้าง กำหนด แต่มีข้อเสีย คือ มักจะเป็นงานที่ทำซ้ำ เหมือนกันทุกวัน และต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบของนายจ้าง ในการประกอบอาชีพรับจ้างนั้น มีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้ออำนวยให้ผู้ประกอบอาชีพ รับจ้างมีความเจริญก้าวหน้าได้ เช่น ความรู้ ความชำนาญในงาน มีนิสัยการทำงานที่ดี มีความกระตือรือร้น มานะ อดทน ในการทำงาน ยอมรับกฎเกณฑ์และเชื่อฟังคำสั่ง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ความขยันหมั่นเพียร รับผิดชอบ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รวมทั้ง สุขภาพอนามัยที่ดี อาชีพต่าง ในโลกมีมากมาย หลากหลายอาชีพ ซึ่งบุคคลสามารถจะเลือกประกอบ อาชีพได้ตามความถนัด ความต้องการ ความชอบ และความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ ประเภทใด จะเป็นอาชีพอิสระ หรืออาชีพรับจ้าง ถ้าหากเป็นอาชีพที่สุจริตย่อมจะทำให้ เกิดรายได้มาสู่ตนเอง และครอบครัว ถ้าบุคคลผู้นั้นมีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ตลอดจน มีความรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่าง จะทำให้มองเห็นโอกาสในการเข้าสู่อาชีพ และพัฒนา อาชีพใหม่ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ



นายพีรัช ฐิตารมย์

นักเศรษฐศาสตร์ : (อังกฤษeconomistคือผู้ที่ศึกษาในวิชาด้านเศรษฐศาสตร์ แต่เดิมนั้นคำว่าเศรษฐศาสตร์ยังไม่ปรากฏขึ้นในโลก จนกระทั่ง อดัม สมิธ ได้เขียนหนังสือชื่อ An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations (พิมพ์ครั้งแรกปี .. 1776) หรือที่ภายหลังเรียกอย่างสั้นๆ ว่า the Wealth of Nations ซึ่งโดยทั่วไปได้รับการยอมรับว่าเป็นตำราเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของโลก เหตุผลสำคัญที่หนังสือเล่มนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นตำราเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ได้มีการย้ำถึงแนวคิดด้านการเปิดให้กลไกตลาดดำเนินงานอย่างเสรีโดยเชื่อว่า กลไกตลาดนั้นจะเป็นเครื่องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่างโดยตัวมันเอง การแบ่งงานกันทำโดยใช้หลักที่ว่าใครถนัดอะไรก็ให้ทำสิ่งนั้น และการลดการแทรกแซงของรัฐ

จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ บารอนแห่งเคนส์ ที่หนึ่ง (อังกฤษJohn Maynard Keynes, 1st Baron Keynes; 5 มิถุนายน .. 2426 – 21 เมษายน .. 2489) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ชาวอังกฤษ เกิดที่ เคมบริดจ์ประเทศอังกฤษสหราชอาณาจักร ผู้เสนอแนวคิดเศรษฐศาสตร์แบบเคนส์ (Keynesian Economics)แนวความคิดทางเศรษศาสตร์ของเคนส์มีอิทธิพลต่อทฤษฎีเศรษศาสตร์มหภาคสมัยใหม่เป็นอย่างมาก รวมไปถึงนโยบายเศรษฐกิจที่รัฐบาลนำมาใช้ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ
                                                               ประวัติ
การศึกษา 
จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ได้เข้าศึกษาต่อ ระดับอุดมศึกษาที่ คิงส์ คอลเลจเคมบริดจ์ ใน ปี .. 2445 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ แต่นักเศรษฐศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงอย่าง อัลเฟรด มาร์แชล ขอร้องให้เขา มาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเวลานั้น เขาเป็นประธานชมรมลัทธิเสรีนิยม ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ อยู่ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาคณิตศาสตร์ ใน ปี .. 2448 และระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ใน ปี .. 2451
การเสียชีวิต
จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ เสียชีวิตด้วย โรคหัวใจ ที่บ้านพัก ใน ทิลตันอีสต์ ซุสเซ็ก ในวันที่ 21 เมษายน .. 2489 หลังจากนั้นอีก 3 ปี จอห์น เนวิล เคนส์ (.. 2395 - 2492) ซึ่งเป็นบิดาของเคนส์ ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ผลงาน
ประโยคสำคัญซึ่งท้าทายเศรษฐศาสตร์แบบเดิม คือประโยค "In the long run, we are all dead" (ในระยะยาว พวกเราก็ตายกันหมดแล้ว) ซึ่งสะท้อนเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการปรับตัวในระยะยาว
เหล่านักเศรษฐศาสตร์ต่างยกให้ จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหลักของสาขาวิชา เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics)


                                                   https://th.wikipedia.org


นายสรวิศ   สันติพงษ์พันธ์

ศิลปิน (อังกฤษ: artist) เป็นกลุ่มบุคคลที่แสดงความคิดออกมาในรูปแบบต่าง ไม่ว่าจะใช้สัญลักษณ์ การแสดงออกทางร่างกาย การใช้เสียง การใช้อุปกรณ์ หรือการวาด
เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (เกิด 15 กุมภาพันธ์ .. 2498) เป็นจิตรกรไทยมีผลงานจิตรกรรมไทยหลายผลงาน เช่น ภาพจิตรกรรมไทยในอุโบสถวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, เขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก และผลงานศิลปะที่ วัดร่องขุ่น ซึ่งมีทั้งงานสถาปัตถยกรรม, ประติมากรรมปูนปั้น และงานจิตรกรรมไทย ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี .. 2554
ประวัติ
เฉลิมชัยเป็นจิตรกรที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับคนหนึ่งของประเทศไทย เป็นชาวหมู่บ้านร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ .. 2498 เป็นบุตรคนที่ 3 ของนายฮั่วชิว แซ่โค้ว (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายไพศาล) และนางพรศรี อยู่สุข​ ทำคลอดด้วยหมอตำแยชื่อยายตุ่น ชีวิตตอนเด็ก เป็นคนเกเร ไม่ตั้งใจเรียน แต่มีความชอบวาดรูป จึงพยายามเข้าเรียนที่เพาะช่าง และมหาวิทยาลัยศิลปากร เคยได้รับเหรียญทองจากการประกวดผลงานระดับชาติ ในตอนที่เรียนอยู่ตอนปีที่ 4 มีผลงานรูปวาดตามผนังของวัดไทยมากมาย ผลงานปัจจุบัน เฉลิมชัยตั้งใจที่จะสร้างวัดร่องขุ่น ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของเขา ด้วยศิลปะไทยประยุกต์ หรือศิลปะสมัยใหม่
ผลงาน
เฉลิมชัยจัดแสดงผลงานเดี่ยว และร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการสำคัญต่าง ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ .. 2520 จนถึงปัจจุบัน
·         .. 2523 เป็นประธานก่อตั้งกลุ่ม "ศิลปไทย 23" เพื่อต้านอิทธิพลศิลปะจากยุโรป อเมริกา
·         .. 2527 เริ่มโครงการจิตรกรรมฝาผนังวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเดินทางไปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดพุทธปทีป โดยไม่คิดค่าจ้าง
·         .. 2539 เริ่มดำเนินการออกแบบก่อสร้างอุโบสถ วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงรายบ้านเกิดของตนถวายเป็นพุทธบูชาจนถึงปัจจุบัน
สาเหตุที่ชอบเพราะอาชีพนี้สามารถคิด  ออกแบบ ผลงาน  สร้างสรรค์ในแบบของตัวเองได้อย่างแพร่หลาย
    


นายภูดินันท์ ลีจิตรจำ 

นักแสดง คือ บุคคลที่ประกอบอาชีพเป็นผู้แสดง เช่น ศิลปิน, นักรำ, นักเต้น, นักดนตรี ซึ่งแสดง ท่าทาง ร้องกล่าว พากย์ แสดงตามบทเพื่อเผยแพร่ต่อผู้ชม และอื่นอื่น ซึ่งเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ ตามหลักทั่วไป กล่าวคือ เป็นผู้ที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์งานขึ้นมา
เฉินหลง เป็นนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เกิดวันที่ 7 เมษายน .. 2497 ที่วิกตอเรียพีค ในฮ่องกง มีชื่อจริงว่า เฉิน กั่งเซิง (陳港生) หรือหมายความว่า "เกิดที่ฮ่องกง" พ่อของเฉินหลงชื่อ เฉิน จื้อผิง (陳志平) แม่ชื่อ เฉิน ลี่ลี่ (陳莉莉) เดิมอยู่เมืองจีน แต่หนีออกมาอยู่ฮ่องกงสมัยสงครามกลางเมือง
ประวัติ
ปี 1978 เมื่อเฉินหลงนำแสดงหนังให้แก่ Seasonal Film เรื่อง Snake in the Eagle's Shadow (ไอ้หนุ่มพันมือ) (1978) ทำให้ชื่อของเฉินหลง กลายเป็นดาราดังเพียงช่วงข้ามคืน เพราะสามารถทำเงินอย่างมหาศาลในฮ่องกง จากนั้นเฉินหลงก็ได้นำแสดงใน Drunken Master  (ไอ้หนุ่มหมัดเมา) (1978) โดยเฉพาะเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จในฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จทั่วเอเชียอีกด้วย
ผลงาน
หลังจากร่วมงานกับทาง Golden Harvest มานานร่วม 20 กว่าปี ในปี 2003 เฉินหลงจึงตัดสินใจเดินออกจาก Golden Harvest และมาเปิดบริษัทของตัวเองในนาม JCE Movies Limited (Jackie Chan Emperor Movies Limited) โดยอยู่ในเครือของบริษัท Emperor Multimedia Group (EMG) บริษัทสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ในฮ่องกง
ผลงานในยุค JCE
·         The Medallion (ฟัดอมตะ) (2003)
·         Rice Rhapsody (2004)
·         Enter the Phoenix (ใหญ่นะยะ) (2004) [รับเชิญ]
·         New Police Story (วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด) (2004)
·         House of Fury (2005)
·         Everlasting Regret (2005)
·         The Myth (ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา) (2005)
·         Rob-B-Hood (วิ่งกระเตงฟัด) (2006)
·         Run Papa Run (2008)
·         Wushu (2008)
·         "Shenmue Online (VG) (2008)
·         The Shinjuku Incident (ใหญ่แค้นเดือด) (2009)
·         "Armour Of God : Chinese Zodiac (ใหญ่สั่งมาเกิด 3 ตอน วิ่งปล้นฟัด)